วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

น้ำท่วมกรุงเทพ


15.50 น.  ถ.ลาดพร้าว แยกภาวนา ระดับน้ำทรงตัว 50ซม. (Photo/ThailandFlood)
15.47 น. หัวน้ำด้านถ.พหลโยธิน ยังทรงตัวอยู่ที่แยกกำแพงเพชร ส่วนด้านรัชดาภิเษก ยังอยู่ที่สะพานข้ามคลองบางซื่อ โรงแรมเจ้าพระยา @fm91trafficpro
15.33น. วิภาฯ ขาออก น้ำท่วมขยายมาถึงแยกสุทธิสารแต่ระดับน้ำยังไม่ลึกยังสามารถ เลี้ยวที่แยกสุทธิสาร ขวาไปรัชดาสุทธิสาร และซ้ายไปแยกสะพานควายได้ @fm91trafficpro
15.20 น. รถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีพหลโยธิน ฝั่งห้างยูเนี่ยนมอลล์ขณะนี้เริ่มมีน้ำท่วมขังถึงบันไดแล้ว
15.00 น. เจ้าหน้าที่สูบน้ำหน้า ศปภ. ออกหมดแล้ว
- สถานการณ์น้ำล่าสุดที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ. ภายใน กระทรวงพลังงาน ขณะนี้ ถนนทางเข้า ศปภ. ใน ซ.วิภาวดีรังสิต 11 ไม่มีน้ำท่วมขังแล้ว เนื่องจาก เจ้าหน้าที่ ได้ใช้เครื่องสูบน้ำเร่งระบายออก เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ปฏิบัติงานใน ศปภ. แต่ยังคงมีน้ำเอ่อบริเวณขอบถนนเล็กน้อยขณะเดียวกัน
- ขณะที่สำนักงานประปา สาขาพญาไท ซึ่งอยู่ตรงข้าม กระทรวงพลังงาน ไม่มีน้ำท่วมขังแล้วเช่นกัน

14.36 น. แยกเกษตรฯ ระดับน้ำทรงตัวในระดับสูงที่ 90 ซม.  (Twitter@Nalinee_PLE)
14.32 น. ที่ห้างตะวันนา2 ย่านบางกะปิ ขณะนี้ได้มีน้ำจากคลองแสนแสบ และคลองยายเผื่อนไหลซึมเข้ามาบ้างแล้ว โดยเฉพาะบริเวณลาดจอดรถ และถนนด้านหลังของห้าง มีความสูง 5ซม. ทั้งนี้ที่ไหลซึมน้ำดังกล่าวไม่ใช่น้ำที่ทะลักจากเขื่อน หรือคันกั้นน้ำคลองแสนแสบแต่อย่างใด เพราะอีกประมาณ 50ซม.น้ำจึงจะล้นข้ามเขื่อนมาได้ ดังนั้นจึงได้แจ้งให้ประชาชนอย่าตระหนกตกใจ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ระดมสูบน้ำออกแล้ว 11.55 น. น้ำผุดจากท่อท่วมวัดไผ่ตัน หลังคลองบางซื่อ ซอยพหลโยธิน 15 ระดับน้ำในคลองบางซื่อ ก่อนแยกสะพานควาย บนถนนพหลโยธิน ที่ขึ้น – ลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้วัดไผ่ตัน ที่อยู่ภายในซอยพหลโยธิน 15 ซึ่งอยู่ติดกับคลองบางซื่อ เริ่มมีน้ำผุดขึ้นมาจากท่อระบายน้ำ ทำให้น้ำเอ่อท่วมบริเวณกุฏิพระ หลังวัดแล้ว ส่วนบริเวณชุมชนวัดไผ่ตัน ที่อยู่หลังวัด บ้านเรือนประชาชนส่วนใหญ่ติดริมคลองบางซื่อ ซึ่งฝั่งตรงข้ามเป็นตลาด อ.ต.ก. ระดับน้ำขณะนี้ท่วมในชุมชนอยู่ที่ 10 – 30 เซนติเมตร 11.50 น. ถ.รัชดาภิเษก มุ่งหน้าแยกสุทธิสาร บริเวณหน้าบริษัทจรัญประกันไทย เริ่มมีน้ำผุดขึ้นมาจากท่อ 10.42 น.  บางบอน น้ำท่วมถนน 20ซม.แล้ว ลุ้นถ.พระราม 2วันนี้ (คลิกเพื่ออ่านรายละเอียด) 10.39 น. เดอะมอลล์บางแค น้ำสูง1.50 ม. โดยเฉพาะห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์บางแค ถนนเพชรเกษม น้ำท่วมสูงประมาณ 1.50 เมตร ขณะที่ถนนเพชรเกษตร รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้ นอกจากรถบรรทุกหรือรถนยต์ขนาด 10 ล้อ ทางด้านถนนเพชรเกษมขาเข้า น้ำได้ท่วมถึงช่วงสน.ภาษีเจริญ 10.35 น. สถานการณ์น้ำ ถ.นวมินทร์ หัวน้ำ อยู่ ซ.66 ทั้งขาเข้า-ออก ระดับน้ำสูงกว่า 30 ซ.ม 09.30น.ถ.วิภาวดี รังสิต -ถ.พหลโยธิน น้ำเริ่มลดสถานการณ์น้ำบริเวณถ.วิภาฯ ยังมีน้ำผุดตามท่อ แต่ยังไม่ถึงแยกสุทธิสาร ขณะที่ฝั่งถ.พหลฯ ระดับน้ำสูง 40- 60 ซม. และยังไม่ข้ามคลองบางซื่อ 09.15 น. รายงานสถานการณ์น้ำ บริเวณถนนจรัญฯ ตั้งแต่แยกบรมฯ-คลองบางกอกน้อย – ถนนจรัญสนิทวงศ์ จาก สะพานพระราม 7 ถึงปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 75 มีระดับน้ำท่วมสูง 70 – 90 ซม. ระยะทางประมาณ 2.7 กม. ยังปิดการจราจร – ถนนจรัญสนิทวงศ์ จาก แยกบางพลัดถึงแยกบรมราชชนนี (สน.บางพลัด+สน.บางยี่ขัน) มีระดับน้ำท่วมสูง 10 – 20 ซม. ระยะทางประมาณ 1.8 กม. รถเล็กผ่านได้ – ถนนจรัญสนิทวงศ์ จาก แยกบรมราชชนนีถึงคลองบางกอกน้อย มีระดับน้ำท่วมสูง 20 – 40 ซม. ระยะทางประมาณ 1 กม. เปิดการจราจรแล้ว - ถ.อรุณอัมรินทร์ ระหว่างแยกอรุณอัมรินทร์-สะพานพระราม8 ยังมีน้ำท่วมสูง10–20ซม. แต่เปิดการจราจรแล้ว
09.10 น. ย่านเอกชัย-บางบอนน้ำท่วมสูง 20-30ซม. ขณะที่ ถ.พระราม 2 ต้องเผ้าระวังเป็นพิเศษ

งานช้างสุรินทร์ 2554

 
 
 
 
นายเสริม ไชยณรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์กำหนดจัดการแสดงของช้างในงาน มหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ ในวันเสาร์ที่ 19 - 20 พฤศจิกายน 2554 ณ สนามแสดงช้างจังหวัดสุรินทร์ กำหนดแสดงวันละ 1 รอบ ระหว่างเวลา 09.00-12.00 น. ใช้ช้างร่วมแสดงมากถึง 250 เชือก พร้อมควาญช้างและนักแสดงชาย- หญิงกว่า 1,000 คน

โดยการแสดงงาน มหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ ปีนี้ จะจัดให้เป็น SHOW ช้างระดับโลก ด้วยการร้อยเรียงการแสดงผ่านเรื่องราวกึ่งละคร โดยใช้เสียงสร้างบรรยากาศ ฉากการแสดงยิ่งใหญ่อลังการ นักแสดงสวมใส่เสื้อผ้าและเครื่องประดับที่สีสวย สดใส

ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยอีกว่า การแสดงของช้าง เปิดฉากการแสดงกายกรรมช้าง กิจกรรมการเล่นสนุก บรรยากาศน่ารัก คึกคัก ขบขัน สร้างสีสันและความประทับใจด้วยกลิ่นอายแบบอีสาน โดยช้างแต่งกายแนวแฟนซีแบบไทยอีสานประยุกต์ พร้อมแฟชั่นโชว์ช้างชุดตัดเย็บด้วยผ้าอีสาน

ช้างนุ่งชุดผ้าขาวม้า และแสดงความสามารถพิเศษ เช่น ช้างชักคะเย่อ ช้างเตะฟุตบอล ช้างเซิ้งกระติ๊บยักษ์ ช้างเป่าแคนยักษ์ และช้างร้องคาราโอเกะ จากนั้นเป็นการแสดงฉากที่ยิ่งใหญ่อลังการ 8 ฉาก หรือ 8 องก์ ได้แก่

องก์ที่ 1 ช้างคู่แผ่นดิน: ขบวนช้างกลับเมืองหลังจากเสร็จศึกด้วยชัยชนะ มีชาวบ้านมาต้อนรับ มีการเฉลิมฉลอง

องก์ที่ 2 คชามหิธา: แสดงถึงวัฒนธรรมชาวกูย

องก์ที่ 3 คชาเทพ: มีช้างแต่งตัวสวยงาม พร้อมเหล่าเทวดานางฟ้ามาปรากฏกาย

องก์ที่ 4 สืบสายคชาธาร: แสดงถึงวิถีชีวิตชาวกูย และพิธีเซ่นศาลประกำ ก่อนการคล้องช้างป่า ซึ่งเป็นประเพณีที่ ปฏิบัติกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษนับหลายพันปี

องก์ที่ 5 โพนช้าง: ประวัติพระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง ซึ่งเป็นชาวกูยได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นพระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง

องก์ที่ 6 ยุทธหัตถี: การแสดงขบวนทัพเองเล็ก และเมืองใหญ่ ในเครื่องแต่งกายอย่างนักรบโบราณ และชมการรบที่ยิ่งใหญ่สมจริงซึ่งมีทั้งกองปืนใหญ่ที่ยิงต่อสู้ กองทหารทะลวงฟันนับร้อยเข้ารบประจัญบาน และการสัปยุทธที่เป็นสุดยอดของการรบบนหลังช้างที่เรียกว่า ยุทธหัตถี ซึ่งได้สร้างวีรกรรมแก่ช้างไทยจนดังไปทั่วโลก

องก์ที่ 7 รุกรบไพรี ยุทธหัตถีมีชัย: ต่อเนื่ององก์ที่ 6 องก์ที่ 8 ทะเลช้าง: เหล่านักแสดงในชุดต่างๆ พร้อมกับช้างจำนวนหลายร้อยเชือก ออกมาอำลาผู้ชมสำหรับประชาชนและนักทองเที่ยวที่สนใจ สามารถติดต่อจองบัตรเข้าชมได้ที่สำนักงานจังหวดสุรินทร์ ในราคา 800, 500, 300 บาท สอบถามรายละเอียดได้ที่ 0-4451-2039
จังหวัดสุรินทร์ มีช้างเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองมาแต่โบราณอีกทั้งชาวกวยหรือกูย ซึ่งเป็นชาวพื้นเมืองในอดีตได้จับช้างป่ามาฝึก เพื่อใช้งานในด้านต่างๆเช่น การพาหนะ การขนส่ง รวมถึง ช้างยังมีบทบาทในการประกอบพิธีทางศาสนาและวัฒนธรรมของชาวกวย ชาวกวยแต่ละครัวเรือนจะมีช้างที่เลี้ยงไว้อาศัยอยู่รวมกัน จนช้างที่พวกตนเลี้ยงไว้เปรียบเสมือนเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของตน ก่อให้เกิดสายใยความผูกพันที่แน่นเฟ้นขึ้นระหว่างคนกับช้าง ชาวกวยจึงเลี้ยงช้างในฐานะที่เป็นสัตว์เลี้ยงเสียมากกว่าจะเป็นสัตว์ที่ไว้ใช้งาน การฝึกช้างของชาวกวยจึงเป็นการฝึกช้างให้เชื่องและปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าของ ด้วยความเฉลียวฉลาด และความสามารถในการปฏิบัติตามคำสั่งได้อย่างน่าอัศจรรย์ของช้างนี้เอง กลุ่มผู้นำในหมู่บ้านได้เล็งเห็น และรวมตัวกันเพื่อแสดงให้คนภายนอกเห็นถึงความผูกพันของคนกับช้างที่สามารถอยู่ร่วมกันและสื่อสารกันได้พร้อมทั้งแสดงให้เห็นถึงความสามารถอันแสนพิเศษของช้างไทย การแสดงช้างครั้งแรก จึงถือกำเนิดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2503 ณ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ จากความน่ารัก    ความแสนรู้ของช้างสุรินทร์ ในครั้งนั้น ด้วยเอกลักษณ์อันโดดเด่นที่สร้างชื่อเสียงและความประทับใจให้แก่ผู้ชมทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติทั่วโลก
กิจกรรมเด่น
วันที่  17  พฤศจิกายน 2554      
เวลา 14.00 น. - ขบวนแห่รถอาหารช้าง เริ่มจากบริเวณหน้าโรงเรียนสิรินธร
เวลา 18.00 น. - การประกวดขบวนรถอาหารช้าง ณ บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง อ.เมือง จ.สุรินทร์
เวลา 19.00 น. - การประกวดสาวงามเมืองช้าง เวทีกลางกาชาดสุรินทร์ สนามกีฬาศรีณรงค์ อ.เมือง จ.สุรินทร์
วันที่  18 พฤศจิกายน 2554
เวลา 08.00 น. - ขบวนพาเหรดและแห่ช้างกว่า 300 เชือก เริ่มขบวนจากหน้าสถานีรถไฟจังหวัดสุรินทร์
เวลา 09.00 น. - งานต้อนรับและเลี้ยงอาหารช้าง ณ บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง อ.เมือง จ.สุรินทร์
วันที่ 18-19  พฤศจิกายน 2554   
เวลา 19.00 น. - งานแสดงแสง สี เสียง ตำนานพันปีปราสาทศีขรภูมิ ณ บริเวณปราสาทศีขรภูมิ อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์
วันที่   19-20  พฤศจิกายน 2554
เวลา 09.00 น. -  การแสดงช้างจังหวัดสุรินทร์ ณ สนามแสดงช้าง อ.เมือง จ.สุรินทร์
วันที่  20  พฤศจิกายน 2554
เวลา 05.00 น. -  งานวิ่ง “เมืองช้าง” มินิ-ฮาร์ฟมาราธอน ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานวิทยาเขตสุรินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์

วันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2554

ขนมไทย

ขนมทับทิมกรอบ


เครื่องปรุง

แป้งถั่วเขียวหรือแป้งมัน 1/2 ก.ก

แห้วสด 1 ก.ก

หัวกะทิสด 2 ถ้วย

น้ำเชื่อมข้นขนาดยางมะตูม 2 ถ้วย

น้ำหวานสีต่างๆ


วิธีทำ

1. ปอกเปลือกแห้ว หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็ก แช่ในน้ำสละ 4-5 ชั่วโมง สงขึ้นคลุกกับแป้งในถาดให้ทั่ว

2. นำเม็ดทับทิมที่คลุกแป้งแล้ว ลวกในน้ำเดือด พอลอยให้ตักขึ้นแช่ในน้ำเย็นซักครู่แล้วตักใส่ถ้วย ใส่น้ำเชื่อมน้ำแข็งและกะทิ